สายไฟ หรือสายไฟฟ้า คือสื่อหรืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ส่งกระแสไฟฟ้าออกมาจากแหล่งจ่ายไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า และต้องมีการติดตั้งและใช้งานตามมาตรฐานและความปลอดภัยที่กำหนด เพื่อป้องกันอันตรายและรั่วไฟฟ้าในการใช้งานประจำวันและในสภาวะปกติของระบบไฟฟ้าที่ใช้งาน
1.ตัวนำ (Conductor) เป็นส่วนที่นำไฟฟ้าไปยังสถานที่ต้องการ มักใช้ทองแดง (copper) หรืออลูมิเนียม (aluminum) ในการผลิตตัวนำ เพราะเป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดี ตัวนำจะมีขนาดหลายขนาดตามการใช้งานต่าง ๆ ของสายไฟ.
2.ฉนวน (Insulation) มีหน้าที่ควบคุมการไหลของไฟฟ้าและป้องกันการรั่วไฟฟ้า วัสดุที่ใช้ในฉนวนอาจเป็นพีวีซี (PVC), โพลียูรีเทน (Polyurethane), ซิลิโคน (Silicone), หรือ XLPE (Cross-Linked Polyethylene) ตามประเภทและการใช้งานของสายไฟ.
3.เปลือกหุ้ม (Jacket) เป็นชั้นสูงสุดบนสายไฟ มักใช้เป็นวัสดุ PVC, ที่ทำหน้าที่ปกป้องสายไฟและฉนวนภายในจากสภาวะแวดล้อมภายนอก เช่น การชน, ความชื้น, แสงแดด, และสิ่งสกปรกอื่น ๆ.
4.สายดิน (Ground Wire) สายไฟบางชนิดมีสายดินเพิ่มเติมที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบอัตรากระแสสั่งประจุ (Grounding System) เพื่อป้องกันการชนกับไฟเหลืองหรือเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
1.สายไฟไฮโวลต์ (HV) สายไฟไฮโวลต์ใช้สำหรับระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง เช่น อาคารสูง โรงงาน สถานีโทรคมนาคม
2.สายไฟต่ำแรง (LV) สายไฟต่ำแรงใช้สำหรับระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันต่ำ สำหรับการใช้ในบ้าน อาคารพาณิชย์ โรงงานขนาดเล็ก และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีความต้องการแรงดันไฟฟ้าต่ำ
3.สายไฟแรงดันสูง (HT) สายไฟแรงดันสูงใช้สำหรับระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงกว่าระบบไฟฟ้าสายไฟต่ำแรง สายไฟแรงดันสูงมักใช้ในการส่งไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่าย
4.สายไฟดีเทล (Control Cables) สายไฟดีเทลใช้สำหรับการควบคุมและการสั่งงานเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น สายไฟควบคุมเครื่องจักร สายไฟเซ็นเซอร์ สายไฟสัญญาณ และอุปกรณ์ควบคุม
5.สายไฟเนื้อเดียว (Single-Core Cables) สายไฟเนื้อเดียวมีแม่พิมพ์เดียวเท่านั้น มักใช้ในระบบไฟฟ้าแรงดันสูง เพื่อลดการสั่นสะเทือนของสายไฟในการทำงาน
6.สายไฟแบบหลายเนื้อ (Multi-Core Cables) สายไฟแบบหลายเนื้อมีหลายแม่พิมพ์ที่แยกจากกันภายในซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นและการถอดสายไฟต่างกัน เช่น สายไฟที่ใช้ในแผงควบคุม
7.สายไฟป้องกันและป้องกันไฟฟ้า (Armored and Shielded Cables) สายไฟป้องกันและป้องกันไฟฟ้ามีชั้นครอบคลุมเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการชำรุดจากปัจจัยภายนอก และป้องกันความเสียหายจากการแพร่กระจายของสัญญาณไฟฟ้า
8.สายไฟแบบกันน้ำ (Waterproof Cables) สายไฟแบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทนต่อน้ำและความชื้น เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง
9.สายไฟสัญญาณ (Signal Cables) สายไฟสัญญาณใช้สำหรับการส่งสัญญาณและข้อมูลไฟฟ้า เช่น สายไฟสัญญาณอินเตอร์เน็ต (Ethernet cables) และสายไฟสัญญาณที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องมือและอุปกรณ์ไฟฟ้า
10.สายไฟเปล่า (Unshielded Cables) สายไฟเปล่าหรือที่เรียกว่า UTP (Unshielded Twisted Pair) ใช้สำหรับการส่งข้อมูลเครือข่าย เช่น สาย LAN แบบ Cat 5e, Cat 6, และ Cat 6a
ข้อสังเกตที่สำคัญคือต้องเลือกสายไฟที่เหมาะกับงานและการใช้งานของคุณ โดยให้คำนึงถึงแรงดันไฟฟ้า ลักษณะการใช้งาน ความยืดหยุ่น และการป้องกันที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน
สายไฟฟ้าอ่อน คือสายไฟ สีต่างๆที่สามารถพันม้วนเก็บ เคลื่อนย้ายได้ง่ายเป็นสายไฟที่ใช้กันตามบ้านเรือน ที่พักอาศัย
สายไฟฟ้าภายนอก คือสายไฟที่อยู่ภายนอกอาคาร สายไฟตามเสาไฟฟ้าต่างๆ มีหลายขนาด อาทิ เบอร์50 สแควมิล (50 sq.mm) และมีอีกหลายเบอร์เช่นเบอร์ 10 , 16 , 25 , 35 , 70 , 95 , 120 , 150 , 185 , 240 , 300
สายไฟฟ้าภายใน คือสายไฟฟ้าในบ้านเรือนและอาคาร มีหลากหลายราคา ขนาด และยี่ห้อให้เลือกใช้ราคาเริ่มต้นที่หลัก10 จนถึง หลัก1,000ต่อเมตร สามารถแบ่งเป็นประเภทย่อยๆ ได้อีก3ชนิดคือ สายไฟ vaf,สายไฟ thw,สายไฟ vct
สายไฟฟ้า VAFได้รับความนิยมในการใช้งานในประเทศไทย เนื่องจากความคงทนทานต่อความร้อนและความชื้นสูงความสะดวกในการติดตั้งและเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตาม ในการใช้งาน สายไฟVAF ควรปฏิบัติตามมาตรฐานและรหัสข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สายไฟฟ้าVAF หมายถึง "Vinyl Aluminum Flat wire" ซึ่งเป็นสายไฟฟ้ามาตรฐานที่รับแรงดันได้ไม่เกิน 300/500V โดยสายทำจากสายทองแดงและมีฉนวนที่ทำจากพีวีซี (PVC) เพื่อป้องกันการรั่วไฟฟ้า รวมถึงมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มความคงทนในการใช้งาน
สายไฟฟ้าVAF เป็นสายไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมายทำให้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ซึ่งมีเหตุผลดังนี้
-ความคงทนและประสิทธิภาพสูง สายไฟVAF มีสมรรถนะในการรับแรงดันไฟฟ้าได้สูงและความคงทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 70°C ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีความร้อนและความชื้นสูง เช่น ในบางพื้นที่ของประเทศไทย
-การปกป้องและความปลอดภัย การมีฉนวนทำจาก PVC ช่วยป้องกันการรั่วไฟฟ้าและลดความเสี่ยงในการสัมผัสไฟฟ้า
-ความหนาแน่นของสายไฟVAF มักมีลักษณะเป็นสายแบนแกนคู่ที่มีความหนาแน่น ซึ่งทำให้ง่ายต่อการติดตั้งและเชื่อมต่อ
สายไฟฟ้าVAF มีการใช้งานหลากหลายในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน โรงงาน หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยใช้สายที่มีขนาดตั้งแต่ 1 ถึง 16 ตารางมิลลิเมตร และมักถูกนำมาใช้ในการต่อสายไฟภายในอาคารหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
สายไฟฟ้า THW คือประเภทหนึ่งของสายไฟที่มักใช้ในระบบไฟฟ้าในอาคารและโครงการที่ต้องการสายไฟที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ โดยเฉพาะในการใช้ในสภาวะที่มีความชื้นสูง หรือการติดตั้งในที่ที่อาจมีการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในภายในอาคาร โรงงาน หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ
สายไฟฟ้า THW มักมีลักษณะเป็นสายไฟหนาและมีฉนวนซึ่งช่วยในการป้องกันการชนเชิงกลโดยรอบ มีความทนทานต่อความร้อนและการสัมผัสกับน้ำ คุณสมบัติที่สำคัญของสายไฟ THW รวมถึงความทนทานต่อสภาวะอากาศและความแข็งแรงในการทนทานต่อการย่อยสลาย
สายไฟฟ้า VCT ย่อมาจาก "Vinyl Cable for Tough Use" หรือ "Vinyl Cord Tough" เป็นตัวย่อที่บอกถึงคุณสมบัติของสายไฟชนิดนี้ คือสายไฟที่ผลิตจากสังกะสีพลาสติก (Vinyl) และออกแบบมาให้ทนทานและทนต่อการใช้งานหนัก สายไฟ VCT มักมีสีน้ำตาลเข้ม
สายไฟฟ้า VCT มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่กดดันสูง ซึ่งทำให้มักใช้งานในสถานที่อุตสาหกรรมหรือโรงงาน อาทิเช่นการเชื่อมต่อเครื่องจักร การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า หรือการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความทนทานต่อการกดดัน สายไฟ VCT อาจมีการใช้งานในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมอาหาร หรือในโรงงานผลิต
สายไฟฟ้า VCT มักมีคุณสมบัติเด่นที่เหมาะกับการใช้งานในสถานที่อุตสาหกรรม รวมถึงความต้านทานต่อการไหม้และความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นที่ดีเมื่อต้องการหดหรือขยายในการติดตั้ง
สายไฟฟ้า VCT เป็นสายไฟที่มีความทนทานและเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่อุตสาหกรรมหรือโรงงานที่ต้องการความแข็งแรงและคุณภาพในการติดตั้งที่คงทนตลอดเวลา
บริษัท สมาร์ท อีเล็คทริค จำกัด
65/29 หมู่ 5 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74110
Tel. 034-406 222 Fax. 034-406 777
อีเมล์. smartelectric2008@gmail.com